วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

การเดินทางเล็กๆ ของวัยรุ่นตัวน้อย

นี่ก็เป็นรีวิวแรกในชีวิตของผมเลยครับ เป็นรีวิวที่สะสมประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่ได้บันทึกเรื่องราวผ่านภาพถ่าย อาจมีภาพสดบ้าง รีทัชบ้าง สวยบ้าง ไม่สวยบ้าง ก็ตามแต่ผู้อ่านทุกท่านจะแนะนำเลยนะครับ ผมเขียนอาจจะมีติดขัดไปบ้าง เพราะเป็นกระทู้แรก แต่ถ้าผิดพลาดยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ เขียนมาเพราะใจอยากที่จะนำมาแชร์จริงๆ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามไปชมกันได้เลยครับ

ตัวผมเองก็เป็นเด็กมัธยม ที่อยู่ต่างจังหวัด ศึกษาในโรงเรียนประจำอำเภอชีวิตก็เลยยังพอได้เห็นความเป็นอยู่ที่ต่างจากเมืองกรุงอยู่บ้างจนชีวิตได้หันเหมาจับกล้อง เลยได้บันทึกเรื่องราวต่างๆดังนี้ครับ 



นี่คือโรงเรียนผม เป็นโรงเรียนประจำอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในอำเภอเลยก็ว่าได้ มีอายุประมาณ 114 ปี ตัวผมเอง ก็เรียนที่นี่ตั้งแต่ ม.1-6 เพราะแม่ไม่ให้ไปที่อื่น 5555 รู้สึกรักและผูกพันมากเปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่งเลยทีเดียว

อาคารหลังใหม่ของโรงเรียนผมครับ เสียดายที่ไม่ทันใช้ เพิ่งสร้างเสร็จเหมือนปลายปี 56 ฮ่าๆๆๆ


กิจกรรมส่วนใหญ่ของ รร.ผมก็เหมือนโรงเรียนมัธยมทั่วๆไปแหละครับไม่มีอะไรแตกต่างกันมากที่นี่นักเรียนประมาณ 2500 คน ส่วนใหญ่ก็ป็นเด็กในพื้นที่และอำเภอใกล้เคียง เด็กๆก็มีทั้งจากริมทะเล ในเมือง เเละบนเขามาเรียนนะ จะบอกให้ 555
ทีนี้มาพูดถึงสถานที่สำคัญๆในตัวอำเภอกันบ้างนะครับ ที่เห็นในภาพนี้คือสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำหลังสวน โดยสะพานนี้มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว จากภาพ จะเห็นว่าด้านซ้ายและขวาเนี่ยไม่เหมือนกัน ซึ่งเรื่องมันมีอยู่ว่าสะพานด้านหนึ่งโดนระเบิดเพื่อตัดขาดการเดินรถไฟของญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานทัพและใช้เพื่อเป็นทางผ่านในช่วงนั้น เมื่อสะพานโดนระเบิดจึงเกิดการซ่อมแซมใหม่ด้วยการออกแบบที่ต่างกัน จึงทำให้มีรูปร่างแบบนี้ (ส่วนด้านไหนที่โดนระเบิด เดี๋ยวผมจะไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้นะครับ) 


คืนนี้ขออำลาไปด้วยภาพสถานีรถไฟหลังสวนก่อน จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวมาต่อให้นะครับ 

มาแล้วครับมาแล้ว หลังจากที่เมื่อคืนเราทิ้งท้ายด้วยป้ายสถานีหลังสวน พร้อมกับปริศนาที่ว่าสะพานรถไฟอันไหนที่หัก ผมไปหาข้อมูลมาให้แล้วครับ ด้านที่หักคือด้านที่เป็นเหลี่ยมซึ่งได้รับการซ่อมแซมใหม่ ด้วยการออกแบบที่ต่างจากเดิมซึ่งเป็นแบบโค้ง ทำให้ไม่เหมือนเดิม ตามภาพนี้เลยครับ 

ทำให้หลายคนที่ผ่านไปมาสงสัยว่าทำไมไม่เหมือนกัน อมยิ้ม20

  เนื่องจากบ้านผมอยู่ต่างจังหวัดเลยโชคดีมีโอกาสสัมผัมกัชีวิตในชนบทมากกว่าอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ผมเลยจะนำเรื่องราวมที่ผมไปประสบพบเจอมาเล่าสู่กันฟังครับเพราะเชื่อว่าหลายๆคนที่อ่านกระทู้อยู่อาจจะอยู่ในเมืองกรุงบ้าง เมืองใหญ่ในต่างจังหวัดบ้าง อาจจะทำให้ไม่ค่อยได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบชนบทหรือในเมืองเล็กมากนัก มาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังให้ได้ชมกันครับ

  คนส่วนใหญ่ที่หลังสวนนี้จะประกอบอาชีพทำสวนผลไม้กันครับ เช่นพวก ทุเรียน ลองกอง ลางสาด เงาะ มังคุด พอถึงฤดูของแต่ละอย่างก็จะมีมาให้กินกันแบบเยอะมาก กินจนเบื่อกันเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ ที่เห็นในภาพนี่คือดอกทุเรียนครับ ก่อนที่จะโตไปแล้วมีหนามนั่นแหละ พอดีผมขึ้นไปบนสวนของรุ่นพี่ท่รู้จักแล้วเก็บภาพมาได้พอดีครับ

เวลารดน้ำเป็นอะไรที่ชุ่มฉ่ำมาก เพราะจะได้กลิ่นไอดินที่ร้อนมาทั้งวัน ระเหยปะทะจมูก บอกตรงๆครับว่าสดชื่นมากเมื่อได้สัมผัส ผ่อนคลายหายเหนื่อยไปเยอะเลยทีเดียว


บรรยากาศในสวนรอบๆ เวลาตอนเย็น เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายจากกการทำงานมาพักผ่อนมากครับ เพราะเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ ต้นไม้เยอะมากกก อาจจะทำให้สัตว์ในพื้นที่ที่อยู่มาก่อนเยอะตามไปด้วย เอิ้กๆ 
ใบของต้นทุเรียนเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ยามเย็น

ความเขียวฉอุ่มของดอกหญ้าที่มีทั่วไป หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นวัชพืช มีไปก็รกสวนเปล่าๆ แต่เราสามารถทำมันให้สวยได้ เพียงแค่ลองเปลี่ยนมุมมอง นำมันมาเป็นพระเอกในภาพดู ก็จะดูดีขึ้นมาทันใด ฮ่าๆๆ

ดอกหญ้าที่เริ่มแห้งเฉา เป็นสัญญาณของฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

สปริงเกอร์ที่คอนรดน้ำให้ความชุ่มชื้นกับต้นไม้ ก่อนที่น้ำจะเหือดแห้งในหน้าแล้งที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบ ทำให้ทุเรียนในสวนต้องหยุดเติบโต เพราะขาดน้ำไปหล่อเลี้ยง

เดินไปรอบๆสวนก็จะเจอต้นไม้เล็กๆตามโคนต้นไม้ เเต่ก็ใข่ว่าจะนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้เลยเพราะสามารถถางแล้วนำไปหมักเพื่อทำปุ๋ยเสริมแร่ธาตุให้ดินได้ โดยต้นไม้พวกนี้ยังมีประโยชน์ในการคลุมหน้าดินเพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไปในตอนกลางวันเป็นอาหารและที่อยู่ของเเมลงที่อยยู่บนดินบริเวณนั้นด้วย